บทนำเรื่อง

ที่มาของเรื่อง

มาจากเรื่อง “บทเสภาขับระหว่างชุดระบำสามัคคีเสวก”

 

จุดมุ่งหมายในการแต่ง

เป็นบทเสภาสำหรับขับอธิบายนำเรื่องในการฟ้อนรำตอนต่างๆ เพื่อให้พิณพาทย์ได้พักเหนื่อย

 

ลักษณะคำประพันธ์

เป็นกลอนสุภาพ  (กลอนเสภา)

 

เนื้อเรื่องย่อ

ชาติใดที่มีการรบราฆ่าฟันกัน ชาตินั้นจะไม่มีเวลาที่จะมาสนใจศิลปะ แต่ถ้าชาติบ้านเมืองสงบก็มีเวลามาสนใจและนิยมงานศิลปะแขนงต่างๆ เพราะศิลปะเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม ให้คุณค่าทางด้านจิตใจ ใครที่ไม่รักงานศิลปะก็เหมือนกับคนป่า ดังนั้นงานช่างทุกชนิดจึงเป็นงานที่ชาติไทยเราสมควรที่จะส่งเสริมและพัฒนาให้ก้าวหน้าไปให้ทัดเทียมประเทศอื่นๆ

 

ลักษณะเด่นของเรื่อง

๑.เป็นกลอนที่ใช้ถ้อยคำภาษาง่ายๆ แต่ฟังไพเราะ มีการอุปมาอุปไมย เปรียบอย่างสมเหตุสมผลบางตอนบางบทของเสภานี้จึงเป็นที่จดจำติดปากของคนไทยเรา เช่น

อันชาติใดไร้ช่างชำนาญศิลป์     เหมือนนารินไร้โฉมบรรโลมสง่า

ใครๆ เห็นไม่เป็นที่จำเริญตา               เขาจะพากันเย้ยให้อับอาย

๒.เป็นเรื่องที่โน้นน้าวใจให้ผู้อ่านมีความรัก ความนิยมในงานศิลปะ ชี้ให้เห็นความสำคัญและคุณค่าของศิลปะอันงดงามของไทยอันเป็นมรดกตกทอดมาแต่บรรพบุรุษ

 

สาระสำคัญ

บทเสภาสามัคคีเสวกมีลักษณะต่างจากเสภาเรื่องอื่นๆ คือ เป็นบทเสภาขนาดสั้น แบ่งออกเป็น ๔ ตอน แต่ละตอนมุ่งเสนอแนวคิดมากกว่าการเล่าเรื่อง โดยมีความคิดสำคัญ ที่ผูกร้อยแต่ละตอนเข้าด้วยกันคือ ความสมานสามัคคีและความจงรักภักดีของข้าราชการต่อองค์พระมหากษัตริย์และต่อประเทศชาติ เนื้อหาสาระโดยสรุปของแต่ละตอนมีดังนี้

 

ตอนที่ ๑ กิจการแห่งพระนนที

มีเนื้อความสรรเสริญพระนนทีผู้เป็นเทพเสวก เมื่อพระอิศวรจะเสด็จไปแห่งใด

พระนนทีจะแปลงเป็นโคอุสุภราชหะพระอิศวรประทับ

 

ตอนที่ ๒ กรีนิรมิต

มีเนื้อความสรรเสริญพระคเณศเทพเจ้าแห่งศิลปวิทยาและเป็นผู้สร้างช้างต่างๆ ในแผ่นดินเพื่อประดับพระยศของพระมหากษัตริย์ การแสดงระบำเริ่มต้นด้วยช้างประจำทิศทั้ง  8 ออกมาถวายบังคมพระคเณศและจับระบำยักษ์กาลเนมีออกมาไล่จับช้าง พระคเณศโกรธจึงไล่ลงไปต่อสู้กับยักษ์และขับไล่ยักษ์ไปได้ พระคเณศได้มอบช้างประจำแต่ละทิศให้ท้าวโลกบาลทั้ง 8 และร่ายมนต์สร้างพระยาช้างเผือกจากนั้นให้หมอเฒ่าจับช้างเผือกแล้วตั้งกระบวนแห่พระยาช้างเผือก

 

ตอนที่ ๓ วิศวกรรมา

มีเนื้อความสรรเสริญพระวิศวกรรมผู้เป็นเทพเจ้าแห่งการก่อสร้างและการช่างนานาชนิดกล่าวถึงความสำคัญของศิลปะที่มีต่อชาติ การแสดงระบำเริ่มจากพระวิศวกรรมออกมารำ ต่อนางวิจิตรเลขามารำทำท่าวาดภาพถวาย และพระรูปการมารำทำท่าปั้นรูปถวาย จากนั้นมีการแสดงอาวุธที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างงดงาม และปิดท้ายด้วยระบำนพรัตน์

 

ตอนที่ ๔ สามัคคีเสวก

มีเนื้อความกล่าวถึงการสมานสามัคคีในหมู่ข้าราชการ ให้บรรดาข้าราชการเหล่านั้นมีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ซื่อตรง รักษาเกียรติยศและขยันทำงาน การแสดงระบำเริ่มด้วยราชเสวก ๒๘ หมู่ เดินแถวสวนสนามและร้องเพลงแสดงความจงรักภักดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น